เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นาย ดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้มีการประชุมกับคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ จากผลกระทบของการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยทาง ศบศ. เห็นชอบมาตรการ แจกเงิน 3000 บาท กระตุ้นสำหรับการใช้จ่ายที่นำเสนอจากกระทรวงการคลัง
ซึ่งทางรัฐจะแจกเงิน 3,000 บาท เพื่อให้ประชาชนเอาไปใช้จ่ายซื้อของ แต่ว่าการที่จะได้รับสิทธิ์นี้ต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนโครงการนี้เท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นโครงการลักษณะเดียวกันกับ “ชิมช้อปใช้” โดยทางกระทรวงการคลังจะจัดทำรายละเอียดโครงการเพื่อนำเสนอต่อ ศบศ. อีกครั้ง เพื่อให้โครงการนี้สามารถเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนตุลาคม
มาตรการแจกเงิน 3,000 บาท สามารถช่วยลดค่าครองชีพของประชาชน พร้อมกับส่งเสริมการบริโภค และช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยทั่วไปที่ครอบคลุมไปจนถึงหาบเร่แผงลอย ซึ่งทางรัฐบาลจะช่วยค่าใช้จ่าย 50 เปอร์เซ็นต์ และจำกัดการใช้จ่ายต่อคนตลอดทั้งโครงการ
ส่วนกลุ่มเป้าหมายของผู้ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ แจกเงิน 3000 บาท จะต้องเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป เป็นจำนวน 15 ล้านคน แถมกลุ่มร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการทางรัฐจะเน้นไปที่ร้านค้ารายย่อย ประมาณ 80,000 ร้านค้า
นอกจากนี้ น.ส. ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการ์เศรษฐกิจ ได้เห็นชอบกับมาตรการทั้งหมดนี้ว่าเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศ
โดยอย่างแรกของมาตรการนี้ก็คือปรับปรุงมาตรการเราเที่ยวด้วยกันเพิ่มเติม ซึ่งทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เสนอให้บุคลากรภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ สามารถลาพักผ่อนในวันธรรมดาเพิ่มได้อีก 2 วัน โดยไม่ถือว่าเป็นวันลา เพื่อเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
ส่วนมาตรการอย่างที่สองก็คือการจ้างงานสำหรับเด็กจบใหม่ ประมาณ 2.6 แสนคน คาดการณ์งบประมาณ 23,476, ล้านบาท ซึ่งคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับการจ้างนั้น ต้องเป็นผู้ที่จบการศึกษาในปี 2562-2563 ระยะเวลาในการจ้าง 12 เดือน ตั้งแต่ 1 ตุลาคม ปี 2563
ซึ่งทางรัฐบาลจะจ่ายเงินสมทบให้กับนายจ้างไม่เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ของค่าจ้าง ปริญญาตรีจ่ายเงินสมทบไม่เกิน 7,500 บาท สำหรับ ปวส. จ่ายไม่เกิน 5,550 บาท และ ปวช. จ่ายไม่เกิน 4,700 บาท พร้อมกับตลอดทั้งปีนายจ้างต้องไม่ลดการจ้างงานเกิน 15 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังจะมีการจัดงาน Job Expo ภายในเดือน ก.ย นี้ โดยมีตำแหน่งงานว่างกว่า 1 ล้านอัตรา
มาตรการสุดท้ายที่เป็นข้อเห็นด้วย นั่ก็คือการนำมาตรการเหมือนมาตรการ ชิมช้อปใช้ กลับมาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และเน้นการจับจ่ายไปที่ผู้ค้าขนาดเล็กหาบเร่แผงลอย โดยให้ทั้งหมด 15 ล้านสิทธิ์ แจกเงินคนละ 3,000 บาท โดยใช้จ่ายในแอพพลิเคชั่น เป๋าตัง พร้อมกับเน้นการซื้ออาหารและเครื่องดื่มโดยรัฐออกเงินให้ 50 เปอร์เซ็นต์
สรุป เตรียม แจกเงิน 3000 บาท 15 ล้านสิทธิ์ ใช้จ่ายผ่านแอป “เป๋าตัง”
มาตรการที่สามารถช่วยให้ประชาชนลดค่าครองชีพลงได้ โดยถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่งในการส่งเสริมผู้คนออกมาจับจ่ายใช้สอยของซื้อกับของขาย แถมยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับมาเป็นปกติเหมือนดั่งเดิมได้อีกด้วย
SBO24LIVE เว็บ แทงบอล เว็บดียวที่แจกโบนัสเยอะที่สุด ง่ายที่สุด สมัครสมาชิกใหม่วันนี้พร้อมรับโบนัส โปรโมชั่น
บุคคลที่มีสัญชาติไทย พร้อมกับมีอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถลงทะเบียนเพื่อรับเงินได้จำนวนทั้งสิ้น 15 ล้านคน
บุคลากรภาครัฐสามารถลาพักผ่อนในวันธรรมดาเพิ่มได้อีก 2 วัน โดยไม่ถือเป็นวันลา เพื่อหยุดไปร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
ผู้ที่ลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อย เวลาจะใช้เงิน “คนละครึ่ง” จะต้องทำการโหลดแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” เข้ามาก่อน ซึ่งเงินดังกล่าวจะถูกโอนเข้าไปที่แอปพลิเคชั่นนี้ เวลาที่จ่ายเงินซื้อของ จะต้องทำการจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชั่นนี้ ทางรัฐบาลจะออกเงินให้ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งผู้ที่ลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ต้องออกเอง